ทัวร์ยุโรป GRAND EASTERN EUROPE

16.00 น. พบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์สายการบินกาตาร์ แถว Q (Row Q) ประตูทางเข้าที่ 8 อาคารผู้โดยสาร ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

18.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา  ประเทศกาตาร์ ด้วยเที่ยวบินที่ QR835 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง)

22.30 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติฮาหมัด ประเทศกาตาร์ เพื่อต่อเครื่องไปยังกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

02.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ด้วยเที่ยวบินที่ QR189 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 50 นาที)

06.55 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และนำท่านเข้าสู่พิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านเดินทางสู่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (Budapest,  Hungary) (ระยะทาง 244 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 9 ของสหภาพยุโรป เมืองแห่งนี้นั้นเป็นเมืองที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำดานูบ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวเข้าด้วยกันของ 3 เมืองได้แก่ เมืองบูดา (Buda), เมืองโอบูดา (Obuda) และเมืองเปสต์ (Pest) โดยมีการรวมเมืองในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 เป็นเมืองหลวงร่วมของจักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี  จึงทำให้เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า การเงิน สื่อ ศิลปะ แฟชั่น การวิจัย เทคโนโลยี การศึกษา และความบันเทิง เมืองที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นจนได้รับฉายาว่า “Paris of East” จึงทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้งนึงในชีวิต

นำท่านแวะชมป้อมปราการชาวประมง (Fisherman’s Bastion) ป้อมปราการที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้สละชีพเพื่อปกป้องการรุกรานจากอาณาจักรมองโกลในช่วงปีค.ศ. 1241-1242 นอกจากนี้ป้อมปราการแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวเมือง และแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนราม่า จึงเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยที่สุด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับ จตุรัสฮีโร่ (Hero Square) จัตุรัสที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1894 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 1,000 ปีของประเทศฮังการี ในปีค.ศ. 1896 แต่แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1929 เพื่อเป็นสัญลักษณ์อันสื่อถึงสงคราม ความสงบ งานและสวัสดิภาพ จนรวมกันเป็นประเทศฮังการี

นำท่านเข้าชมมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Basilica) มหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิคและนีโอเรเนซองก์ ที่ใหญ่และสูงที่สุดของประเทศฮังการี ด้วยความสูงถึง 96 เมตร และสามารถจุคนได้มากกว่า 8,500 คน ภายในวิหารประดับตกแต่งได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็นแท่นพิธีหลัก ภาพแกะสลัก อันรวมไปถึงประติมากรรมภาพวาดจึงทำให้มหาวิหารแห่งนี้ควรค่าแก่การเข้าชมเป็นอย่างยิ่ง

ได้เวลานำท่านล่องเรือชมความงามแม่น้ำดานูบ เพื่อชมความงามของ 2 ฝั่งแม่น้ำคือ ฝั่งเมืองบูดาที่เป็นเมืองเก่า และเมืองเปสต์ ที่เป็นเมืองใหม่ ซึ่งท่านจะผ่านสถานที่สำคัญของเมืองมากมาย อาทิ ตึกรัฐสภา, เกาะมาร์กาเร็ต และตลาด มาร์เกต ฮอลล์ บนฝั่งเปสต์ และ ปราสาทบูดา มหาวิหารแมทเธียส รวมไปถึงป้อมชาวประมงบนฝั่งบูดาอีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Danubius Hotel Astoria City Center **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า ประเทศสโลวาเกีย (Bratislava, Slovakia) (ระยะทาง 201 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย ซึ่งแยกตัวออกมาจากประเทศสาธารณรัฐเชก และมีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรีย และประเทศฮังการีจึงให้เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดกับทั้งสองประเทศ

นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาว่า (Bratislavsky Hrad) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตามสไตล์โกธิค เรเนซองก์ และบารอก ตั้งอยู่บนเนินเขา ลิตเติ้ลคาพาเธียน (Little Carpathians) และเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองมาอย่างยาวนาน

นำท่านชมมหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Cathedral) มหาวิหารสไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของย่ายใจกลางเมือง เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังเคยเป็นสถานที่เคยใช้เป็นสถานที่ราชาภิเษกของราชอาณาจักรฮังการีระหวางปีค.ศ. 1563 จนถึงค.ศ. 1830

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำเดินทางสู่ กรุงปราก หรือเรียกกันในภาษาท้องถิ่นว่า “ปราฮา (Praha)”  (ระยะทาง 328 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันและองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรมปีค.ศ. 1992 ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคู่รัก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Clarion Congress **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ เพื่อเป็นที่พักของเหล่าราชนิกูล ปัจจุบันใช้เป็นที่พักของประธานาธิบดีเช็ก

นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral) โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบโกธิค มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1929 ประดับตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นเรื่องราวของนักบุญและคริสต์ศาสนา อีกทั้งยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุด

นำท่านเดินสู่ สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ที่สุดของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 และถูกเรียกว่า “สะพานปราก” บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ และชาวคริสต์เชื่อว่าหากเดินผ่านสะพานแห่งนี้และขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านชม ย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาว่าการเมืองของกรุงปราก  ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม

นำท่านเดินทางจัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต (Staré Mesto) โดยรอบล้วนเป็นอาคารและวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี มีความงดงามโดดเด่นจน ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก บริเวณจัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ วิหารตินส์ และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ทุกๆ ชั่วโมงจะมีตุ๊กตาสาวกพระคริสต์ (12 Apostles) ออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบนหอคอยจนครบ

ให้อิสระแก่ท่านได้เดินชมเมืองและซื้อของฝากตามอัธยาศัย ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าแบรนด์เนม หรือจะเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองน่ารักสไตล์เช็กและโบฮีเมียนที่มีให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องแก้วสีต่างๆ ที่ประดับด้วยเงิน, ตุ๊กตาหุ่นกระบอก, งานผ้าปัก รวมถึงชิ้นงานแกะสลักรูปแบบต่างๆ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Clarion Congress **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 3) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองคาโลวี วารี (Karlovy Vary) (ระยะทาง 128 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองสวยของสาธารณรัฐเช็ก หรือ เมืองคาร์ลบาด เป็นเมืองที่มีการค้นพบน้ำแร่โดยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันตะวันออก อีกทั้งยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ 007 ตอนคาสิโนรอยัลอีกด้วย นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของเหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง BECHEROVKA ซึ่งเพาะบ่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสมุนไพรชั้นดี โดยชาวเช็กมีความเชื่อว่าหากเหล้าสมุนไพรดังกล่าวนี้จะสามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารได้

นำท่านเที่ยวชมเมืองน้ำแร่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของแคว้นโบฮีเมีย ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาริมสองฝั่งแม่น้ำเทบลา เป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติและมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 12 แห่ง น้ำพุที่ร้อนที่สุดอยู่ในศูนย์นิทรรศการซึ่งมีความร้อนถึง 72 ํc ภายในศูนย์แห่งนี้มีการจัดแสดงสายน้ำแร่ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเข้าคอร์สสปาเพื่อรักษาสุขภาพ

นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง เช่น โบสถ์ของแมรี่เมดิลีน, โบสถ์สไตล์รัสเซียนออร์ธอดอกซ์, วิหารของเซนต์ปีเตอร์, และเซนต์ปอล อาคารก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรม ทูโอดอร์ เป็นต้น จากนั้นให้อิสระแก่ท่านเดินเล่นถ่ายรูปชมเมืองหรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (เมนูขาหมู)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ คลุมรอฟ (Cesky Krumlov) (ระยะทาง 249 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐเชก และตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัตตาวา (Vtava River) ซึ่งไหลผ่านเมืองนี้ในลักษณะโค้งงอเป็นคุ้งไปตามเนินเขา และคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส จนทำให้ลักษณะภูมิประเทศคล้ายหยดน้ำที่กำลังจะหยุดจากขั้ว หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันในนาม “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย”

นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีการอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง จนได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (เมนูเป็ดโบฮีเมียน)

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Old Inn **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 4) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองฮัลล์สตัท (Hallstatt) (ระยะทาง 209 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกและทิวทัศน์อันสวยงาม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์สตัท และถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาอันสูงชัน ให้อิสระแก่ท่านในการเดินเยี่ยมชมและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (เมนูปลาเทราต์)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) (ระยะทาง 75 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)  หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดในประเทศออสเตรีย ที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศอันโรแมนติกของเทือกเขาแอล์ป และแม่น้ำซาลซ่า และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music นำท่านชมและถ่ายรูปกับสวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชวัง มิราเบลที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายพันธุ์ และตกแต่งได้อย่างสวยงาม จึงทำให้เป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับบ้านของโมสาร์ท ศิลปินและนักประพันธ์เพลงคลาสสิคชื่อก้องโลก จากนั้นให้อิสระแก่ท่านได้เดินเที่ยวชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น ณ ภัตตาคารอาหารจีน

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Wyndham Grand Salzburg **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 5) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทางประมาณ 296 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย และนครหลวงแห่งดนตรีที่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติกและศิลปอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นนครที่มีความทันสมัยแต่แฝงเร้นอยู่ภายใต้สถาปั ตยกรรมคลาสสิคอันทรงคุณค่า

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อนุเสาวรีย์พระนางมาเรีย เทเรซ่า (The Maria Therea Monument) 1 ใน อนุเสาวรีย์ที่สำคัญของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก แห่งจักรวรรดิออสเตรีย พระนางมาเรีย เทเรซ่า ทรงครองราชย์ เป็นจักรพรรดินี ในช่วงปีค.ศ. 1740 – 1780 อนุเสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงพระราชกรณียกิจ ของอดีตจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรออสเตรีย 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับ พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังฤดูหนาวของราชวงค์ฮับส์บูร์กซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดีประเทศออสเตรีย

นำท่านแวะถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen Cathedral) มหาวิหารสไตล์โรมาเนสก์และโกธิก สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1147 เป็นโบสถ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในงานสำคัญต่างๆ ให้กับราชวงค์และประเทศออสเตรีย

จากนั้นอิสระแก่ท่านได้เลือกซื้อสินค้าและของฝากย่าน ถนนคนเดินคาร์ทเนอร์สตรีท (Kartner Street) ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมานั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ๆ และชิมชัดเกอร์เค้กอันเลื่องชื่อ นอกจากนี้ท่านจะได้เลือกซื้อสินค้าแบรด์ดังอื่นๆ อาทิ  Chanel, Gucci, Louis Vuitton และแบรนด์ดังอื่นๆ อีกมากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น Ribs of Vienna

--- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Renaissance Vienna Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 6) ---

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชม พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยกษัตริย์แห่งราชวงค์ฮับส์เบิร์ก ทรงสร้างพระราชวังหลังนี้ให้มีความหรูหรา งดงามไม่แพ้พระราชวังใดบนโลก และยังเคยเป็นที่ประทับของพระนางมาเรีย เทเรซ่า นำท่านชมห้องภายในพระราชวังกว่า 20 ห้อง จาก 1,441 ห้อง แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก

12.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติเวียนนา เพื่อทำการเช็คอินและขอคืนภาษี (Tax Refund)

15.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ด้วยเที่ยวบิน QR184 (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 20 นาที)

22.40 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติฮาหมัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อทำการต่อเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพฯ

01.50 น.  ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ ประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน QR834 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 55 นาที)

12.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ